ยินดีต้อนรับนักลงทุนออนไลน์ที่สนใจการลงทุนในตลาด Forex ทุกท่านครับ

วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557

3 ทางเลือกในการลงทุนยุคปัจจุบั

นักลงทุนหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเครื่องมือ การลงทุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือกลุ่มเเรก (เป็นเครื่องมือที่ความเสี่ยงต่ำ เเต่ในขณะเดียวกันผลตอบเเทนก็ต่ำลงไปด้วย)

 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex

นักลงทุนหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเครื่องมือ การลงทุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

เครื่องมือกลุ่มเเรก
(เป็นเครื่องมือที่ความเสี่ยงต่ำ เเต่ในขณะเดียวกันผลตอบเเทนก็ต่ำลงไปด้วย)
 
1. ฝากธนาคาร ---> ความเสี่ยงต่ำ เเต่ผลตอบเเทนที่ได้รับก็จะต่ำไปด้วย ประมาณ ไม่เกิน 2%

 2. พันธบัตรรัฐบาล ---> มีความปลอดภัยสูง ผลตอบเเทนประมาณ 5% เเต่การที่จะได้รับ ผลตอบเเทน 5% ตามที่ระบุในคูปองนั้น เราอาจจะต้องถือไปจนครบอายุตามที่ระบุไว้ในพันธบัตร อาจต้องใช้เวลา 5-10 ปี

3.ประกันชีวิต ---> ดูเหมือนจะได้รับผลตอบเเทนเยอะ จริงๆเเล้ว มากกว่าเงินฝากเพียงไม่มากเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่จะเอาเงินของเราไปลงทุนต่อในตราสารหนี้ หุ้นพื้นฐาน และพันธบัตรรัฐบาล ต่ออีกทีหนึ่ง ดังนั้นเมื่อคำนวณด้วยสูตรทางการเงินจะพบว่าได้ผลตอบเเทนสุทธิเพียงประมาณ 2.5-3.5% ต่อปีเท่านั้นเอง
เครื่องมือกลุ่มที่สอง
(เป็นเครื่องมือให้ผลตอบเเทนพอสมควร เเต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นด้วย)


1. หุ้น ---> เราจะได้ผลตอบเเทน 2 ทาง คือจากเงินปันผล สำหรับหุ้นปันผล เเละจากการขึ้นลงของราคา โดยเฉลี่ยเเล้ว จะทำผลตอบเเทนอยู่ที่ 12-15% ต่อปี

2.ทองคำ ---> ราคาทองคำค่อยๆ ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนหลายคนคิดว่าทองคำเป้นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนกว่าหุ้นด้วยซ้ำ เเต่เมื่อไปศึกษาจากข้อมูลย้อนหลังก็จะพบว่า จริงๆเเล้วทองคำยังให้ผลตอบเเทนที่น้อยกว่าหุ้นอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

3.กองทุนรวมต่างๆ ---> ขึ้นอยู่กับชนิดของกองทุน เเละความสามารถในการบริหารกองทุนด้วย โดยรวมเเล้วผลตอบเเทนพอๆกับหุ้น

เครื่องมือกลุ่มสุดท้าย (เป็นเครื่องมือที่ให้ผลตอบเเทนสูง ถึง สูงมากเเต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว)

เรา จะเน้นพูดถึงเครื่องมือในกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากหากเรารู้จักวิธีการใช้เครื่องมือนี้อย่างถูกวิธี ก็จะทำให้มีอิสรภาพทางการเงินอย่างง่ายดาย

1.ฟิวเจอร์ส ---> ตอนนี้ในประเทศไทย มีเเล้ว ที่ตลาด TFEX.co.th ซึ่งจากการใช้เครื่องมือนี้ทำให้เรามีพลังในการลงทุน เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 เท่าตัว เช่น ถ้าราคาหุ้นขยับ 10% อาจส่งผลให้ราคาฟิวเจอร์ขยับถึง 50% ซึ่งด้วยผลของอัตราทดนี้ ทำให้มีผู้ที่ประสบความสำเร็จ เเละร่ำรวยจากการใช้เครื่องมือตัวนี้อย่างมากมาย ในไทยตอนนี้เปิดให้เทรดฟิวเจอร์สของหุ้นรายตัว , ฟิวเจอร์สของดัชนีหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ทองคำ เเละสินค้าการเกษตรอย่างข้าว ยางพารา เเละมันสำปะหลัง

2.ออปชั่น ---> ตอนนี้ในตลาดของประเทศไทย มีเพียงเเเค่ ออปชั่นกับดัชนี เครื่องมือนี้ให้ผลตอบเเทนที่สูง มีการใช้กลยุทธ์ในการลงทุนที่หลากหลายมากๆ พวกเฮดฟันด์ใหญ่ๆชอบใช้ออปชั่นในการลงทุน ทำให้ออปชั่น เป็นเครื่องมือที่มีอานุภาพภาพมากๆ นักลงทุนบางคนสามารถทำผลตอบเเทนจากการใช้กลยุทธ์ของออปชั่น ตั้งเเต่ 100-5,000% ภายในเวลาเเค่เดือนเดียวเท่านั้น ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ส่วนใหญ่ใช้ทั้งตลาดขาขึ้น ขาลง อยู่นิ่ง เเละก็ผันผวน เรียกว่าสามารถกำไรจากการลงทุนในออปชั่นได้ทุกสภาวะตลาดกันเลยทีเดียว

3.ค่าเงิน (Forex) ---> ในต่างประเทศ มีผู้ประสบความสำเร็จจากการค้าค่าเงินเป็นจำนวนมาก ที่ดังจนติด Forbes ก็คือ จอร์จ โซรอส ตลาดค้าเงินถือว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตลาดเปิดทำการ 24 ชั่วโมง 5 วัน จันทร์-ศุกร์ มีปริมาณการซื้อขายกันมากมายมหาศาลมากใน 1 วันดังนั้น Forex จึงเป็นช่องทางหนึงที่คนทั่วโลกเลือกที่จะเข้าลงทุน

กล่าวโดยสรุปคือ
การ ที่เราจะเลือกเครื่องมือการลงทุน เเบบใดนั้นขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการผลตอบเเทนโดยเฉลี่ยเท่าไหร่ เราสามารถที่จะยอมรับความเสี่ยงได้เเค่ไหน เพราะการลงทุนเป็นเรื่องของ ผลตอบเเทนและความเสี่ยง

Blog นี้จะเน้นเฉพาะเครื่องมือประเภท Forex เนื่องจากความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือ เราสามารถหาข้อมูลได้ไม่ยากนัก เเละก็มีผู้เชี่ยวชาญอยู่มากมาย Forex สามารถสร้างผลตอบเเทนการลงทุนได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังสามารถ Limit การขาดทุนได้อย่างดี เเต่ในไทยนั้นกลับยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก



 บทความที่น่าสนใจ

วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

ฮือฮา! จอร์จ โซรอส เผย สนใจเก็งกำไร “เงินยูโร” พร้อมลงทุนใน “แบงก์มีปัญหา” ทั่วยุโรป ชี้ เป็นหนทางใหม่สร้างรายได้

   จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อดังชาวอเมริกัน เชื้อสายฮังการี ในวัย 83 ปี เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ “แดร์ ชปีเกิล” นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของเยอรมนีฉบับวันอาทิตย์ (23) โดยระบุ เขามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเงินยูโรในฐานะของช่องทางสร้างรายได้ที่เป็น กอบเป็นกำ และกำลังมองหาโอกาสเข้าไปลงทุนในภาคธนาคารในสหภาพยุโรป (อียู)

 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2557 04:03 น.

ฮือฮา! จอร์จ โซรอส เผย สนใจเก็งกำไร “เงินยูโร” พร้อมลงทุนใน “แบงก์มีปัญหา” ทั่วยุโรป ชี้ เป็นหนทางใหม่สร้างรายได้
จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อดังชาวอเมริกัน เชื้อสายฮังการี ในวัย 83 ปี
       รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - “จอร์จ โซรอส” พ่อมดการเงินชื่อก้องโลกเผย สนใจเก็งกำไรค่าเงินยูโร และกำลังเตรียมเข้าไปลงทุนภาคธนาคารที่กำลังประสบปัญหาทั่วสหภาพยุโรป (อียู) หลายฝ่ายเชื่อ โซรอสมองเห็นลู่ทางฟันกำไรอื้อ จากการเข้าไปหากินกับสถาบันการเงินที่ง่อนแง่นทั่วยุโรป

       จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อดังชาวอเมริกัน เชื้อสายฮังการี ในวัย 83 ปี เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ “แดร์ ชปีเกิล” นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของเยอรมนีฉบับวันอาทิตย์ (23) โดยระบุ เขามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเงินยูโรในฐานะของช่องทางสร้างรายได้ที่เป็น กอบเป็นกำ และกำลังมองหาโอกาสเข้าไปลงทุนในภาคธนาคารในสหภาพยุโรป (อียู)

       โซรอสยอมรับกับสื่อดังของเยอรมนีว่า ทีมงานด้านการลงทุนของเขากำลังตั้งตารอโอกาสที่จะฟันกำไรมหาศาลในยุโรปใน หลากหลายช่องทาง โดยหนึ่งในช่องทางที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือการเข้าเก็งกำไรค่าเงินยูโร และการอัดฉีดเงินของตนเข้าไปในธนาคารที่กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทั่ว ยุโรป

       “ขณะนี้ ทีมงานของผมกำลังมองหาลู่ทางสร้างรายได้มหาศาลในยุโรป ซึ่งหนึ่งในช่องทางที่ผมมองไว้ในตอนนี้ คือ การแสวงหากำไรจากเงินยูโร รวมทั้งการอัดฉีดเงินทุนเข้าไปยังบรรดาธนาคารที่ประสบปัญหาทั่วยุโรป ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่กลุ่มยูโรโซนจะต้องเปิดรับการลงทุนจากนักลงทุนเอกชน อย่างเรา” โซรอสกล่าว

       พ่อมดการเงินชื่อก้องโลกซึ่งมีทรัพย์สินในครอบครองมากกว่า 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 748,295 ล้านบาท) ยังยอมรับว่า หนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เขาเตรียมเข้าไปเก็งกำไร คือ กรีซ ชาติสมาชิกยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว และเสี่ยงต่อการล้มละลายอย่างยิ่งยวดในช่วงที่ผ่านมา

       “ผมเกรงว่ากลุ่มยูโรโซนจะประสบกับภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจที่ยาวนาน คล้ายกับปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับญี่ปุ่นในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา แม้ในระยะหลังจะมีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าตลาดการเงินในยูโรโซนจะเริ่ม สงบนิ่งมากขึ้น แต่การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนนั้นก็ยังคงไม่เกิดขึ้น และภาวะเช่นนี้เองที่เหมาะต่อการเก็งกำไร” โซรอส กล่าวเสริม

       ทั้งนี้ โซรอสเคยฟันกำไรเข้ากระเป๋ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อปี 1992 จากการเข้าโจมตีค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิง ของสหราชอาณาจักร จนเกือบทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ประสบภาวะล้มละลาย รวมถึงเคยทำกำไรอีกมหาศาลจากการเข้าโจมตีค่าเงินบาทของไทยเมื่อครั้งที่เกิด “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เมื่อช่วงปี 1997
ฮือฮา! จอร์จ โซรอส เผย สนใจเก็งกำไร “เงินยูโร” พร้อมลงทุนใน “แบงก์มีปัญหา” ทั่วยุโรป ชี้ เป็นหนทางใหม่สร้างรายได้
โซรอสเคยฟันกำไรเข้า กระเป๋ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อปี 1992 จากการเข้าโจมตีค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิง ของสหราชอาณาจักร จนเกือบทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ประสบภาวะล้มละลาย รวมถึงเคยทำกำไรอีกมหาศาลจากการเข้าโจมตีค่าเงินบาทของไทยเมื่อครั้งที่เกิด “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เมื่อช่วงปี 1997
      
ฮือฮา! จอร์จ โซรอส เผย สนใจเก็งกำไร “เงินยูโร” พร้อมลงทุนใน “แบงก์มีปัญหา” ทั่วยุโรป ชี้ เป็นหนทางใหม่สร้างรายได้
เงินยูโรคือเหยื่อรายต่อไปของโซรอส?
     
ฮือฮา! จอร์จ โซรอส เผย สนใจเก็งกำไร “เงินยูโร” พร้อมลงทุนใน “แบงก์มีปัญหา” ทั่วยุโรป ชี้ เป็นหนทางใหม่สร้างรายได้


 บทความที่น่าสนใจ

วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

BOLLINGER BANDS เครื่องมือสำหรับ Swing เทรดเดอร์

Bollinger Bands ประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ย (BB average) ที่อยู่ตรงกลาง 1 เส้น และเส้นกรอบบน (BB Top), เส้นกรอบล่าง(BB Bottom) อีกอย่างละเส้น รวมเป็น 3 เส้น

 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex

  

 BOLLINGER BANDS  เครื่องมือสำหรับ Swing เทรดเดอร์

    Bollinger Bands ประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ย (BB average) ที่อยู่ตรงกลาง 1 เส้น และเส้นกรอบบน (BB Top), เส้นกรอบล่าง(BB Bottom) อีกอย่างละเส้น รวมเป็น 3 เส้น

Bollinger Bands จะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับแนวโน้มของราคา โดยเส้น BB Top ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน และเส้น BB Bottom ทำหน้าที่เป็นแนวรับ ในขณะที่เส้น BB Average ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งแนวโน้มระหว่างแนวรับ-แนวต้าน

การใช้งาน

1. ราคาจะซื้อขายกันอยู่ในกรอบ Bollinger Bands โดยการทะลุเส้นบนหมายถึงภาวะ over bought ในขณะที่การทะลุเส้นล่างหมายถึงภาวะ over sold ที่ราคามักจะต้องกลับเข้าไปซื้อขายกันอยู่ในกรอบเสมอ

2. การซื้อขายที่อยู่ระหว่างเส้น BB Average กับเส้น BB Top จะแสดงลักษณะตลาดในแนวโน้มขาขึ้น และในทางตรงข้าม การซื้อขายที่อยู่ระหว่างเส้น BB Average กับเส้น BB Bottom เป็นการแสดงลักษณะตลาดในแนวโน้มขาลง ฉะนั้นการไม่ทะลุขึ้นหรือลงจึงเป็นการแสดงลักษณะว่า ตลาดจะดำเนินต่อไปตามแนวโน้มเดิมที่เป็นอยู่นั้น

3. เมื่อตลาดกำลังดำเนินอยู่ในภาวะแนวโน้มขาขึ้น เส้น BB Average จะทำหน้าที่เป็นแนวรับในขณะที่เส้น BB Top เป็นเป้าหมายที่ราคาจะไปถึง และจะดำเนินต่อไปในกรอบนี้ตราบเท่าที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง ด้วยการทะลุเส้น BB Average ลงมา ก็จะเป็นตรงกันข้าม

4. การเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาในกรอบที่แคบเป็นเวลานาน จะทำให้ Bollinger Bands แคบเล็กลงตามลำดับ และการแกว่งของราคาในกรอบที่กว้างเป็นเหตุทำให้ช่วงความกว้างของ Bollinger Bands ขยายใหญ่ตามไปด้วย

5. เมื่อ Bollinger Bands บีบแคบลงมากจนเมื่อวันหนึ่งมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มเข้ามาอย่างมหาศาลพร้อมราคา ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว Bollinger Bands จะแสดงออกในลักษณะ "กรวยปากอ้า" ปากระเบิดอย่างเต็มที่ ในทางตรงกันข้าม Bollinger Bands ที่มีลักษณะถ่างกว้างมาชั่วเวลาหนึ่ง ปากจะหุบลงเมื่อการซื้อขายกลับเข้ามาอยู่ในระดับปกติ


 บทความที่น่าสนใจ