ยินดีต้อนรับนักลงทุนออนไลน์ที่สนใจการลงทุนในตลาด Forex ทุกท่านครับ

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

การดู กราฟแบบง่ายๆ "ซื้อแพง แต่กำไร"

วันนี้ผม จะมาแฉความลับ สวรรค์ ในเรื่องของกราฟหุ้น ...ว่าที่จริงแล้ว มันมิใช่ความลับแต่อย่างใด ...ใช่!! การอ่านกราฟ หรือ ที่เราเรียกว่า Technical Analysis ก็คือ การอ่าน Trend ว่ามีโอกาสที่ราคาหุ้นจะ "ขึ้น" หรือ "ลง" ก็เท่านั้นเอง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex
ไอ้ ตัวราคาหุ้นที่เราเอามา Plot เป็น "แท่งเทียน" ก็คือ การบันทึก "ราคาเปิด ปิด สูง ต่ำ รวมอยู่ในแท่งนั้นๆ" ..ดังนั้น ในแต่ละแท่งเทียน มันก็บอกได้ว่า ในวันๆนั้นมีการซื้อขายอย่างไรบ้าง ...แท่งแดงๆ ก็คือ ลงเยอะ ..แท่งเขียวๆ ก็คือขึ้น ...นั่นแหละ แท่งเทียน!!

เอา ล่ะครับ เมื่อเราเข้าใจเล็กน้อยว่า "แท่งเทียน" คือ ราคา ... ถ้าเราต้องการคาดเดาว่า ราคาพรุ่งนี้ "น่าจะขึ้น หรือ ลง" เราต้องเอา Indicator เข้ามาใส่ ...พูดง่ายๆ ว่า ติดอาวุธให้ Chart ราคานี่แหละ



ผมเอาตัวอย่าง มาให้ดูกัน (ตัวอย่างนี้ เราใช้ Indicator เข้ามา 2 ชนิด

"เครื่อง มืออันแรก" ..ก็คือ EMA หรือ Moving Average "ใช้ดูค่าเฉลี่ย..คือ อะไรก็ตามที่อยู่เหนือค่าเฉลี่ย ก็แปลง่ายๆว่า มันอยู่ในขาขึ้น ...และอะไรอยู่ใต้ค่าเฉลี่ย ก็คือ ขาลงนั้นเอง ...ถ้าจะซื้อหุ้นแล้วหวังขึ้น ราคามันก็ควรจะอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย ..จริงไหม!! (พวกนี้แหละหลัก Common Sense ที่คนเล่นหุ้น แทบไม่เคยสนใจ เลยเจ๊งกันมากมาย คิดดีๆครับ)"

"เครื่องมืออันที่สอง" ..ก็คือ MACD ...เขาบอกว่า มันเป็น "เทพแห่ง Indicator" เพราะมันแม่น (เพราะสัญญาณมันช้า จึงแม่น ก็แค่นั้นเอง) ...พูดง่ายๆว่า ถ้าไม่รู้ว่า Trend ของหุ้นอยู่ในทิศทางใด ...ให้ดู MACD "คือ ถ้ามันอยู่เหนือ 0 ก็คือ ขาขึ้น" ...ถ้ามันอยู่ใต้ 0 ก็คือ ขาลง"

...ดังนั้น คิดง่ายๆว่า ถ้าทั้งราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย และ MACD ก็อยู่เหนือศูนย์ ก็แปลง่ายๆเลยว่า "หุ้นตัวนั้น น่าจะขึ้นต่อไป" ....จริงๆ หลัก Technical มันง่ายนิดเดียว แต่คนส่วนใหญ่ ใช้ผิด ไปมองเป็นอวิชา อะไรก็ไม่รู้ ...แล้วคิดดีๆนะ ว่า อะไรสำคัญสุดในวิชา "ความน่าจะเป็น"

ใช่!! สำคัญสุด คือ "มันอาจเป็น หรือ ไม่เป็นก็ได้ ...นั้นหมายความว่า หุ้นที่เรามองว่าขึ้น -- จริงๆ มันอาจจะขึ้น หรือ ไม่ขึ้นก็ได้ ... แต่สัญญาณทางสถิติมันบอกว่าน่าจะขึ้น -- จึงมีความน่าจะเป็นว่า "น่าจะขึ้น เราก็ซื้อตามทำกำไรได้" ... สิ่งที่ Make Sense มากๆ ถ้าเราจะเล่นกับความน่าจะเป็น ก็คือ การจำกัดความเสี่ยง ...เพราะถ้าเราเล่นการพนัน ความเสี่ยงมันสูงกว่า ผลตอบแทน ...แต่ถ้าเราลงทุน ผลตอบแทน ต้องมากกว่า ความเสี่ยง"

...สรุป คือ คนที่เล่น Technical ถ้าซื้อแล้ว ต้องปล่อยให้กำไรวิ่ง "Let Profit Run" ..ถ้าขาดทุนหรือ มองผิด ต้อง "จำกัดความเสี่ยง" ด้วยการ Cut Loss ...แค่นี้แหละ ...ศึกษาต่อเพิ่มเติม ไปอ่านหนังสือผม เช่น...แกะรอยหยัก Series , ฟรีด้อมเทรดเดอร์ หรือ คลินิกหุ้นมือใหม่ ... "หนังสือผมขายดี เพราะผมเขียน ช่วยคน 80% ที่ขาดทุนในตลาดนี่แหละ ...ไม่มีใครโง่เลยที่ขาดทุน เพียงแต่ที่เคยเดินมา มันผิดทาง ..คุณยังไม่มีอาจารย์ที่ดีก็เท่านั้นเอง ...ก็ชวนกันมาเดินอย่างรู้เท่าทันความโลภและความกลัวของตัวเอง  ..และค่อยๆรวยไปด้วยกัน ในการลงทุนทั้งชีวิตครับ"

มาดูกราฟ กัน (ยกตัวอย่างเพื่อการศึกษา ...แต่เวลาเทรดจริง อย่าไปเชื่อใคร ..อย่าหวังจะมีใครเอาปลามายัดปากให้คุณกิน ...คนเราต้องพึ่งตัวเอง ..อย่าเอาเงินที่หามาทั้งชีวิตไปละลายโง่ๆ โดยไม่ศึกษาหาความรู้อย่างจริงจังก่อนครับ) ..เอาใจช่วยให้ทุกคน ศึกษาการลงทุนแบบจริงจัง ...เมื่อคุณเข้าใจ คุณรวยแน่นอน ..แล้วเราจะภูมิใจว่าเงินนี้ เราสร้างเองครับ "โคตรเท่ห์เลย ดูฉลาด...555"



อย่าง ภาพนี้ ..ราคาอยู่เหนือเส้น Moving คือ ราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย ...แล้ว MACD ก็อยู่เหนือ 0 ...ดูก็รู้แล้วว่า สถิติของราคา มันบอกว่า โอกาสของการขึ้น มันมีมากกว่าลง ... ดังนั้น ก็ซื้อได้เลย ...แล้วอาจกำหนดความเสี่ยงตรงบริเวณที่ราคาเปลี่ยน Trend จากขาลงมาเป็น ขาขึ้น ที่ราคาประมาณ 140 บาท ...คือ ถ้าซื้อแล้วราคามันดันลงมาหลุด 140 ก็ต้องขายทั้งหมด (จุด 140 คือ จุด Stop Loss ของการลงทุนในครั้งนี้) ..."นี่แหละจำกัดความเสี่ยง คือ ยังไงเราก็เสียจำกัด ..เหมือนคนรู้แพ้ รู้ชนะ ..ถ้าแพ้ ก้ต้องยอมแพ้ แล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ ก็แค่นั้นเอง ..จริงไหม!!" ....แล้วถ้าเข้าซื้อแล้วขึ้นจริง ..ก็ถือไปเรื่อยๆ Let Profit Run ..ถือไปจนกว่าราคาจะหลุด Moving อีกครั้ง ..เพราะตราบใดที่ราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย มันคือ ขาขึ้น จะขายทำไม ...นี่แหละ ที่หลายๆคนไม่เข้าใจ แล้วขายหมูตลอดเวลา

...ครับ ก็ลองศึกษากัน เพิ่มเติมกันดู "ไม่ง่าย ผมขอเตือน แต่ถ้าเอาจริง ผมเห็น สำเร็จทุกคน ช้าเร็วก็ว่ากันไป"...บทความวันนี้ผมเพียงอยากนำเสนอว่า จริงๆ แล้ว ที่คนส่วนใหญ่ขาดทุน เพราะใช้เครื่องมือผิด และ มุมมอง Mind Set ก็ผิดทาง ... ลองตั้งสติ แล้ว เดินบนทางแห่งปัญญาและความเข้าใจดีกว่าครับ

บทความที่น่าสนใจ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค เเละ การหาจังหวะเข้าทำกำไร
รูปแบบของกราฟ การเคลื่อนไหวของกราฟราคารูปร่างแปลกๆ ที่น่าสนใจครับ

จังหวะและเวลาที่ควรเข้าเทรด forex

ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จ-ศ ก็จริง แต่ในการเทรดหรือการเข้าไปทำกำไรนั้นเราจะ
­ต้อง รู้ว่าเวลาไหนตลาดวิ่งดีหรือไม่ดี ผมสรุปเลยนะครับว่าเวลาที่ควรเข้าไปทำกำไร คือช่วงที่มีข่าว และช่วงเวลา 07.00-09.00 น. และ 14.00 น. - 23.00 น.

 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex
ขั้นตอนการสมัค Exness


VDO เรื่องจังหวะและเวลาที่ควรเข้าเทรด

บทความที่น่าสนใจ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค เเละ การหาจังหวะเข้าทำกำไร
รูปแบบของกราฟ การเคลื่อนไหวของกราฟราคารูปร่างแปลกๆ ที่น่าสนใจครับ 

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

รูปแบบของ กราฟแท่งเทียน ขาขึ้น ตอนที่1

ลักษณะของ แท่งเทียน piercing pattern
เป็นรูปแบบการกลับตัวขาขึ้น (bullish reversal) ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง ก่อนที่จะถึงจุดต่ำสุดแท่งกราฟจะเป็นแท่งดำยาว (long black candle) และวันถัดมาราคาหุ้นจะเปิดด้วยราคาเปิด (open)
 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex
ลักษณะของ แท่งเทียน piercing pattern
เป็นรูปแบบการกลับตัวขาขึ้น (bullish reversal) ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง ก่อนที่จะถึงจุดต่ำสุดแท่งกราฟจะเป็นแท่งดำยาว (long black candle) และวันถัดมาราคาหุ้นจะเปิดด้วยราคาเปิด (open) ที่ต่ำกว่าราคาปิดของแท่งดำ แต่สุดท้ายราคาปิดจะวิ่งขึ้นเป็นแท่งเทียนขาวขนาดยาว (long white candle) โดยมีราคาปิดทะลุเส้นกึ่งกลางของแท่งดำ
ปัจจัยที่สำคัญ
การที่เราจะดูว่าทิศทางหุ้นที่อยู่ในช่วงขาลงจะกลับทิศเป็นขาขึ้นด้วยรูปแบบ piercing นี้ได้หรือไม่ ให้สังเกต long white candle ดังนี้
1. ราคาเปิดของ long white candle ถ้าเปิดด้วยราคายิ่งต่ำลงมากเท่าไหร่ยิ่งดี
2. ราคาปิดของ white candle ยิ่งทะลุเลยเส้นกึ่งกลาง long black candle ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
3. หากจะให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นแท่งเทียนวันที่สามควรเป็น white candle ที่เปิดด้วย gap กระโดดขึ้นไป หรือมีราคาปิดที่สูงขึ้นจากราคาปิดของ white candle ของวันที่สอง



ลักษณะของ แท่งเทียน morning star pattern
รูปแบบนี้จะประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่งที่จะแสดงถึงจุดต่ำสุดของกราฟที่พร้อมจะเปลี่ยนทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้น โดยแท่งเทียนแท่งที่หนึ่งจะเป็น long black candle และแท่งเทียนแท่งที่สองจะเป็น small body ที่เป็นได้ทั้ง white หรือ black small body ก็ได้ ทั้งนี้แท่งเทียนแท่งที่สองนี้จะเปิดกระโดดลงแบบมี gap
รูปแบบแท่งเทียนแท่งที่หนึ่งและสองรวมกันจะเป็นรูปแบบพื้นฐานของ star ส่วนแท่งที่สามจะเป็น white candle ที่มีราคาเปิดกระโดดจาก body ของแท่งที่สอง และแท่งที่สามนี้เองจะมีราคาปิดขึ้นไปอยู่ในระดับ body ของแท่งที่หนึ่ง

ปัจจัยที่สำคัญ
ส่วนที่เป็น star (แท่งที่สอง) จะมี 2 หรือ 3 แท่งก็ได้ หรือจะเป็น white หรือ black small body ก็ได้ รูปแบบ morning star นี้เองจะมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้ต้อง confirm ด้วยแท่งที่สามคือ white candle ถ้าเปิดแบบมี gap หรือมีราคาปิดที่สูงขึ้นมาก ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือมีมากขึ้นด้วย



ลักษณะของ แท่งเทียน morning doji star pattern
รูปแบบนี้คล้ายกับ morning star เพียงแต่แท่งที่สองเป็น doji iรูปแบบนี้ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง โดยแท่งที่หนึ่งเป็น long black candle ตามด้วยแท่งที่สองที่เป็น doji ส่วนแท่งที่สามเป็น long white candle ที่มีราคาปิดอยู่ในระดับ body ของ long black candle

ปัจจัยที่สำคัญ
ส่วนที่เป็น doji (แท่งที่สอง) จะมี 2 หรือ 3 แท่งก็ได้คือบางครั้งอาจจะเกิด sideway ระยะสั้นได้เหมือนกัน ยังไม่มีทิศทางที่แน่ชัด เราจึงสามารถรวมเอาแท่งเทียนแท่งที่ doji หรือ small body รวมกันได้
รูปแบบ morning doji star นี้เองจะมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้ต้อง confirm ด้วยแท่งที่สามคือ white candle ถ้าเปิดแบบมี gap หรือมีราคาปิดที่สูงขึ้นมาก ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือมีมากขึ้นด้วย


ลักษณะของ แท่งเทียน Bullish Engulfing
Bullish Engulfing เป็นรูปแบบที่มีแท่งเทียนแท่งที่สองเป็น white candle ที่มีขนาด body ยาวกว่า body ของแท่งเทียนแท่งที่หนึ่งซึ่งเป็น black candle
ความหมายของ engulfing คือกลืนกิน หรือห้อมล้อม หรือครอบงำ ซึ่งก็คือ white candle จะห้อมล้อมหรือโอบ black candle โดยที่แท่ง black candle อยู่ในพื้นที่ body ของ white candle ทั้งนี้เราจะพิจารณาเฉพาะ body ของทั้งสองแท่งเท่านั้นไม่รวมส่วน shadow

ปัจจัยที่สำคัญ
ขนาด ของ body ทั้งสองแท่งจะมีความสำคัญต่อการกลับตัวของราคาหุ้น ซึ่งรูปแบบ engulfing ที่ดีที่สุดนั้นจะประกอบด้วยแท่งเทียนแท่งแรกเป็น small black body ส่วนแท่งที่สองเป็น long white body ลักษณะเด่นแบบนี้จะแสดงถึง แรงซื้อได้ยึดหัวหาด ปล่อยให้แรงขายจางหายไปในที่สุด และถ้าจะให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นในวันที่สองที่เกิด long white body ควรมี volume ในการซื้อขายอย่างหนาแน่นด้วย หรืออาจจะ confirm ด้วยแท่งเทียนวันที่สามที่เป็น white candle เปิดด้วยราคากระโดดมี gap


ลักษณะของ แท่งเทียน Bullish Harami
คำว่า “Harami” เป็นคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น แปลว่าคนท้อง ซึ่งรูปแบบ harami จะประกอบด้วยแท่งเทียน long black candle และ small white candle โดยที่ small white candle จะอยู่ในส่วน body ของแท่งเทียน long black candle


ปัจจัยที่สำคัญ
เนื่องจากรูปแบบของ harami นั้นสัดส่วนของ white candle กับ long black candle จะต่างกันค่อนข้างมาก ดังนั้นรูปแบบ harami โดยลำพังจะไม่สามารถยืนยันการกลับทิศทางของราคาหุ้นได้ ดังนั้นต้อง confirm ด้วยแท่งเทียนในวันที่สาม โดยถ้าจะให้มั่นใจว่าทิศทางราคาหุ้นจะกลับทิศได้นั้นต้องเป็น white candle ที่มีราคาเปิดแบบกระโดดจากแท่งที่สอง หรือเป็น white candle ที่มีราคาปิดสูงขึ้นไปมากๆ

บทความที่น่าสนใจ