วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคเบื้องต้นกับ Rebeccaการ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นการวิคราะห์ภาวะทาง เศรษฐกิจ การเมืองและภาวะอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังศึกษาผลประกอบการ เช่น อัตราการเติบโตในอดีตเพื่อคาดคะเนแนวโน้มในอนาคต
เรียนรู้การวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคเบื้องต้นกับ Rebecca สุดสวย
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน Forex
การ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นการวิคราะห์ภาวะทาง เศรษฐกิจ การเมืองและภาวะอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังศึกษาผลประกอบการ เช่น อัตราการเติบโตในอดีตเพื่อคาดคะเนแนวโน้มในอนาคต แล้วนำมาประเมินราคา ว่าควรมีราคาเท่าใด เทียบกับราคาในตลาดเป็นอย่างใด ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าควรปฏิบัติอย่างไร ตัวเลขเศรษฐกิจ ที่มีอิทธิพลต่อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ มีดังนี้
1. Non-Farm Employment Change (ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร)
2. Consumer Price (อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภค)
3. Retail Sales (ตัวเลขค้าปลีก)
4. Consumer Confidence (ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค)
5. ISM Manufacturing (ดัชนีวัดการผลิตภาคอุตสาหกรรม)
ผลสรุป ตัวเลขเศรษฐกิจที่ตลาดได้ให้ น้ำหนัก และ มีผลต่อความผันผวนมากที่สุด คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการ เกษตร (Non-Farm Employment Change) และ อัตราว่าง งาน (Unemployment rate) โดยพิจารณาจากทั้งความผันผวน ของ VIX Index และ ดัชนีดาวโจนส์
พื้่นฐานการวิเคราะห์ Technicalแผนภูมิแท่งเทียน (Candlesticks Chart)
แผนภูมิแท่งเทียน (Candlesticks Chart) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีประวัติย้อนหลังยาวนานมากกว่า 200 ปี ผู้คิดค้นคือ MUNEHISA HOMMA ในสมัยก่อนใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคา พืชผลทางการเกษตร เช่นราคาซื้อขายข้าว ภายหลังประเทศกลุ่มตะวันตกได้เห็นความมีประสิทธิภาพ จึงได้นำไปใช้วิเคราะห์ตลาดหุ้น ตลาดซื้อขายล่วงหน้า ตลาดออปชันรูป แบบการแผนภูมิแท่งเทียน ประกอบไปด้วยราคาเปิด ราคาปิด ราคาต่ำสุด และราคาสูงสุด และด้วยความรวดเร็วในการแสดงสัญญาณต่าง ๆ ที่ทำให้การวิเคราะห์ แบบแท่งเทียนนี้เป็นที่นิยมในปัจจุบัน และเหมาะสำหรับนักลงทุนโดยทั่วไป
รูปภาพแผนภูมิแท่งเทียน โครง สร้างของแท่งเทียนนั้น ประกอบไปด้วยราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุด แท่งตรงกลางเรียกว่า แท่งเทียน (REAL BODY) ไส้เทียนทางบนเรียกว่า UPPER SHADOW และไส้เทียนทางล่าง เรียกว่า LOWER SHADOW ใน กรณีที่ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียง จะเป็นสีขาว หรือสีเขียว เรียกว่า White Candlestick แสดงถึงแนวโน้มที่ดี (ราคาปรับตัวขึ้น) ในทางกลับกันในกรณีที่ ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียงจะเป็นสีดำ หรือ สีแดง เรียกว่า Black Candlestick แสดงถึงแนวโน้มที่ไม่ดี (ราคาปรับตัวลง) ส่วนในกรณีที่ราคาปิด เท่ากับราคาเปิด โดยราคานั้น จะเป็นจุดสูงสุด หรือต่ำสุดหรือไม่ก็ตาม แท่งเทียนจะมีลักษณะเป็นเส้นขีดขวาง เรียกว่า Dojilestick แสดงลักษณะเป็นกลาง (มีแรงซื้อ แรงขายที่เท่ากัน) ในกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงขาขึ้น อาจแสดงถึงจุดกลับตัวเป็นขาลง หรือในกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงขาลง อาจแสดงถึงจุดกลับตัวเป็นขาขึ้นได้
แผนภูมิแบบเส้น (Line Chart)
แผนภูมิแบบเส้น (Line Chart) เป็นกราฟที่นำราคาปิดของหุ้นมาลากต่อเนื่องกันโดยไม่ใช้ ราคาเปิด, ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุดมาแสดงเลยเนื่อง จากความเรียบง่าย ที่แสดงเพียงแค่ราคาปิดเท่านั้น ทำให้เราสามารถทำความเข้าใจกราฟ และเห็นแนวโน้ม และการเคลื่อนไหวของราคา จากแผนภูมิแบบเส้นได้ง่าย แผนภูมิแบบเส้นจึงเป็นที่นิยมในการนำเสนอ การเคลื่อนไหวของราคาต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามการที่แผนภูมิแบบเส้น ไม่แสดงราคา ต่ำสุด สูงสุด และราคาเปิด ซึ่งเป็นการตัดข้อมูลบางส่วนออกไป จึงทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ไม่นิยมนำแผนภูมิแบบเส้นมาใช้ในการวิเคราะห์ หาแนวโน้มราคา แต่ใช้ แผนภูมิแบบแท่ง หรือ แผนภูมิแท่งเทียน ซึ่งแสดงข้อมูลราคา ต่ำสุด สูงสุด ราคาเปิด และราคาปิด ครบทั้งหมด
รูปภาพแผนภูมิแบบแท่ง | รูปภาพแผนภูมิแบบแท่งเทียน |
แผนภูมิแบบแท่ง (Bar Chart)
แผนภูมิแบบแท่ง (Bar Chart) เป็นกราฟที่แสดงการเคลื่อนไหวของระดับราคาหุ้น มีลักษณะเป็นแท่งแนวตั้ง ภายในแท่ง แสดงราคาปิด ราคาเปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุดของหุ้นรูปภาพแผนภูมิแบบแท่ง ราคา เปิดใช้แทนด้วยเส้นขวางไปทางซ้าย ส่วนราคาปิดแทนด้วยเส้นขวางไปทางขวา จุดสูงสุด และต่ำสุดของแท่งคือราคาสูงสุด และต่ำสุด ตามลำดับ
บทความที่น่าสนใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น